5 เมษายน 2561 ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) มีการหารือแนวทางความร่วมมือในการสนับสนุนและส่งเสริมเยาวชนระดับอาชีวศึกษา ระหว่าง ดร. สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กับ พระพรหมมังคลาจารย์ หรือเจ้าคุณธงชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม ในฐานะประธานสถาบันขงจื่อ เส้นทางไหมทางทะเล
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ได้มีการหารือกับเจ้าคุณธงชัยฯ ใน 3 ประเด็นที่จะมีความร่วมมือกัน คือ เรื่องของเส้นทางสายไหมทางทะเล ที่จะไปเชื่อมโยงกับ ไทยแลนด์ 4.0 โดยรัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับประเทศไทยมาก และปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ไทย-จีน กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะร่วมกับสถานบันขงจื่อฯ พัฒนาเด็กอาชีวะเข้าสู่ตลาดแรงงานในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยจัดสร้างฝีมือแรงงานใน 7 สาขา ที่ยังขาดแคลน ประกอบด้วย 1.ระบบขนส่งทางราง 2.ช่างอากาศยาน 3.แมคคาโทรนิกส์หรือเครื่องกลอิเล็กทรอนิกส์ 4.หุ่นยนต์อุตสาหกรรม 5.เทคนิคพลังงาน 6.นวัตกรรมการท่องเที่ยวและ 7.โลจิสติกส์
“ที่สำคัญ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสรับเสด็จ สมเด็จพระเทพฯ รัตนราชสุดา ท่านทรงมีรับสั่ง ว่า ให้ประเทศไทยร่วมมือกับประเทศจีน เนื่องจากจีนมีสถาบันวิจัย จำนวนมาก ประเทศไทยจะใช้ประโยชน์ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้อย่างไร ประเด็นที่ 2 กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะร่วมมือกับสถาบันขงจื่อฯ ใช้วิทยาศาสตร์สร้างคน เพื่อตอบโจทย์ทางเศรษฐกิจ โดยนำเด็กอาชีวะ มาเรียนรู้เชื่อมโยงกับการศึกษาระบบสะเต็ม ที่ประกอบด้วย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม และเทคโนโลยี เพื่อให้เด็กอาชีวะมีศักยภาพมากขึ้น ประเด็นสุดท้าย กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะร่วมกับ สถาบันขงจื่อฯ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มี นายคณิต แสงสุพรรณ เป็นเลขาธิการ สร้าง อะคาเดมี เพื่อนำเด็กอาชีวะ เข้าไปฝึกวิชาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ อีอีซี เพื่อตอบโจทย์ ความต้องการของอีอีซี ซึ่ง หัวใจสำคัญ คือเด็กอาชีวะ จะต้องมีงานทำ มีคุณภาพ และมีความเป็นสากล เด็กอาชีวะที่อยู่ใน อะคาเดมี จะต้องถูกคัดสรรอย่างเข้มข้น” ดร. สุวิทย์ฯ กล่าว
ด้านพระพรหมมังคลาจารย์ หรือเจ้าคุณธงชัย กล่าวว่า สถาบันขงจื่อ เส้นทางสายไหมทางทะเล ได้นำวิทยาลัยอาชีวะ 62 แห่ง อาทิ สถาบันการอาชีวศึกษากรุงเทพฯ สถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง สถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออก เป็นต้น ลงนามความร่วมมือกับสถาบันอาชีวศึกษาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยรัฐบาลจีนได้ให้ทุนผ่านสถาบันขงจื่อฯจำนวนมาก ล่าสุด วิทยาลัยซันยา แห่งมณฑลไหหนาน ได้ให้ทุนกับสถาบันขงจื่อ จำนวน 30 ทุน เพื่อให้ไปเรียนเป็นแอร์โฮสเตส หรือ มหาวิทยาลัย ฟู่โจว ให้ทุน จำนวน 100 ทุน เพื่อให้เด็กไทย ไปเรียนวิศวะ เป็นต้น การร่วมมือกับ วท. ถือเป็นจิ้กซอ สำคัญ ที่จะนำไปสู่การพัฒนาเด็กอาชีวะ อย่างเป็นรูปธรรม ที่สำคัญ ความสัมพันธ์ระหว่างไทยจีน ได้เปรียบประเทศอื่น เพราะคนจีนถือว่าไทย-จีน คือพี่น้องกัน
“ปัญหาของเด็กอาชีวะปัจจุบัน คือฝึกงานไม่ตรงกับที่เรียน ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ที่สำคัญจะต้องมีการปรับหลักสูตร การเรียนการสอนอาชีวะใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับไทยแลนด์ 4.0 ในอนาคตอันใกล้ ประเทศไทย จะมีรถไฟฟ้า รถรางเกิดขึ้นมากมาย แต่ถามว่า มีแรงงานที่มีฝีมือรองรับหรือไม่ หรือแม้กระทั่งการท่องเที่ยว ก็ยังต้องมีนวัตกรรม เข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้น การเรียนการสอนของอาชีวะ จะต้องสอดคล้องกับโลก คือจบออกมา ทำงานเป็น ทำงานได้” พระพรหมมังคลาจารย์ กล่าว
สำหรับการสนับสนุนและส่งเสริมเยาวชนอาชีวศึกษา บริษัทจากประเทศจีน ที่มาลงทุนในอีอีซี จะเป็นผู้ให้ทุนผ่านสถาบันข่งจื่อฯ และจะมีการสอบชิงทุนการศึกษาในแต่ละระดับ ทั้ง ปวช. ปวส. และปริญญาตรี ตามสาขาต่างๆ เมื่อสอบได้แล้ว จะไปเรียนยังมหาวิทยาลัยต่างๆ ในประเทศจีน ตั้งแต่ 2-4 ปี เมื่อจบออกมาแล้ว มหาวิทยาลัยจากประเทศจีนก็จะส่งกลับมาทำงานกับบริษัทของจีนที่ลงทุนอยู่ในอีอีซี
เผยแพร่ข่าวโดย : นายวรุฒ กิ่งเล็ก
ภาพและวิดีโอ : นายสกล นุ่นงาม, นายภูมินทร์ ปั้นเล็ก
กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โทร. 02 333 3728 – 3732 โทรสาร 02 333 3834
E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. Facebook : sciencethailand
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)
75/47 ถ.พระราม 6 ราชเทวี กทม. 10400
โทร. 0 2 333 3700
โทรสาร 0 2 333 3833
Call Center : 1313
อีเมล์ : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.